วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

มาใหม่ รถสุดแรง


คอนเฟิร์ม Bugatti เตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ปลายปี 2015 เป็นมากกว่าตัวแทน “Veyron”

   Bugatti ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่ากำลังวางแผนเปิดตัวซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ภายในช่วงปลายปี 2015 หรืออย่างช้าต้นปี 2016
หากดูจากอายุการทำตลาดของ Bugatti Veyron ที่ มากกว่าสิบปี จึงถึงเวลาของตัวตายตัวแทนที่ใกล้จะเผยโฉมในไม่ช้า แต่ทาง Walter de Silva หัวหน้าทีมนักออกแบบของ Volkswagen Group ยืนยันว่าซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ “จะเป็นมากกว่าแค่ตัวแทน Veyron”
 
 
Walter de Silva ให้สัมภาษณ์เวบไซต์ Top Gear ระบุว่ารถซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่จะเป็น “งานศิลปะ” ที่ทางบริษัทฯ ใส่เทคโนโลยีที่ดีที่สุดไว้ในตัวรถอย่างเต็มที่เพื่อยกระดับมาตรฐานใหม่ของ อุตสาหกรรมยานยนต์
ข่าวลือก่อนหน้านี้ชี้ว่าซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ของ Bugatti จะมีจำนวนการผลิตเพียง 450 คัน โดยใช้ขุมพลังขนาดเท่าเดิมคือ W16 สูบ ความจุ 8.0 ลิตร ยัดเทอร์โบสี่ลูกพ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังอาจทะลุไปถึง 1,500 แรงม้าเลยทีเดียว นั่นทำให้ความเร็วสูงสุดขนหัวลุกระดับ 435 กม./ชม.
แน่นอนว่าตัวรถจะเน้นการรีดน้ำหนักเพื่อชดเชยการติดตั้งระบบไฮบริดที่ค่อนข้างซับซ้อน โดยอาจมีน้ำหนักตัวรถไม่ถึง 1,800 กก.



 

มาแล้ว! Bugatti Veyron ในมาดรถสายตรวจของดูไบ

 สำนักงานตำรวจแห่งนครดูไบเพิ่มไฮเปอร์คาร์ตัวท็อป Bugatti Veyron เป็นหนึ่งในรถสายตรวจคันล่าสุดอย่างเป็นทางการแล้ว โดยปล่อยทั้งภาพและวีดีโอให้แฟนๆได้ติดตามกันด้วย
Bugatti Veyron ขุมพลังระดับ 1,001 แรงม้าถือเป็นรถที่ทรงพลังอันดับหนึ่งของฟลีตสายตรวจดูไบที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ประกอบด้วย
Aston Martin One-77
Ferrari FF
Bentley Continental
Mercedes-Benz SLS AMG
Chevrolet Camaro
Lamborghini Aventador
McLaren 12C
Brabus B63S
BMW M6 Gran Coupe
Audi R8
Nissan GT-R
Mercedes-Benz SL 63 AMG
Ford Mustang
Renault Twizy
 
 
มีรายงานว่าซูเปอร์คาร์รุ่นต่อไปที่อาจถูกเพิ่มเข้ามาในลิสต์ อาจมีทั้ง McLaren P1, Porsche 918 Spyder และ LaFerrari แต่อาจต้องใช้เวลาสักพัก เนื่องจากทั้ง P1 และ LaFerrari มีจำนวนการผลิตจำกัดและถูกจับจองหมดเกลี้ยงแล้ว ซึ่งทางการดูไบอาจต้องติดต่อซื้อจากตลาดมือสองระดับพรีเมียม

 

อุ๊ต๊ะ Justin Bieber คว้า Bugatti Veyron Grand Sport มาเป็นของสะสมอีกคัน

Justin Bieber นักร้องวัยรุ่น Popstar ชื่อดัง ที่มีชื่อเสียงอื้อฉาว ในเรื่องการขับรถของเขาเป็นอย่างมาก ล่าสุดคว้ารถคันใหม่ ซึ่งถือเป็นสุดยอดของโลก กับ Bugatti Veyron Grand Sport มาเก็บไว้ในโรงรถเป็นที่เรียบร้อย
ไม่ว่า Justin จะเคยขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ หรือ ขับรถชน Paparazzi จนต้องหามส่งโรงพยาบาล ก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรจะหยุด ความรักความชอบในของสะสม Supercar ของเขาได้
ทั้ง Ferrari 458 Wrap สีฟ้าด้าน, Audi R8 และ Fisker Karma Wrap สีโครมสุดเงา
เท่านั้นยังไม่เพียงพอ เพราะเงินในกระเป๋าไม่ใช่เรื่องที่เป็นปัญหา สำหรับหนุ่มน้อยคลั่งรถรายนี้ ล่าสุด ได้ของเล่นคันใหม่ และเป็นคันที่แพงรวมถึงแรงที่สุด ที่เขาเคยมี Bugatti Veyron Grand Sport โดยเป็นคันที่ 045/150 และยังดีที่ Justin ยังไม่ได้ Wrap รถเป็นสีโครม ณตอนนี้ chrome
เอาเป็นว่าอย่างไรก็ ตามเราหวังว่า เขาคงไม่ทำอะไรที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่ รถระดับ 1000 แรงม้า ที่มี Topspeed ถึง 250mph ก็แล้วกัน
 
 
พบรถ Ferrari มือ 2 ได้ที่ Thaicar.com

วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557


ความรู้เล็กๆๆน้อยๆๆ

  
เบรค คืออุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดสำหรับยานพาหนะ แต่น่าแปลกที่คนไทย (เท่าที่ผมเจอ) ให้ความสนใจเรื่องเบรกน้อยมาก พอสตาร์ทรถเป็น ออกตัวได้ก็ “ฉันขี่รถได้แล้วครับบบบ” สนใจแต่ว่ารถคันนี้ความเร็วสูงสุดเท่าไหร่? เทียบกันรุ่นนั้นแล้วคันไหนแรงกว่า..ไม่เคยมีใครสนใจว่าจะทำยังไงถึงจะหยุด รถได้ในระยะทางที่สั้นที่สุด หรือจะใช้เบรคในการคอนโทรลรถอย่างไร
เชื่อหรือไม่ว่าคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์มากกว่า 50% ใช้เบรคไม่ถูกต้อง!!!
ตั้งแต่ ผมเริ่มขี่มอเตอร์ไซค์มา ได้รู้จักกับผู้ขี่มากมายหลากหลายทั้งรถเล็ก รถใหญ่ ทั้งเพิ่งเริ่มขี่จนถึงขี่มาเป็น 10 ปี มีหลายสาเหตุที่ทำให้คนเหล่านั้นใช้เบรคไม่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น ไม่มีคนสอนเลยหัดเองและคิดว่าถูกต้องแล้วจึงทำแบบนี้มาตลอด, มีคนสอนแต่คนที่สอนเองก็ทำไม่ถูกเลยพาลผิดกันต่อไป...คราวนี้เราลองมาดูกัน ว่าผลที่ได้ (ซึ่งมันผิด) มีอะไรบ้าง
ใช้เบรคหลังเป็นหลัก (ใช้เบรคหน้าน้อยมากหรือแทบไม่ใช้เลย)
• กำคลัทช์เวลาเบรค
• เข้าใจว่าเบรคหน้าแล้วจะทำให้รถพับล้ม หรือตีลังกา
• เข้าใจว่าเบรคจนล้อล็อกเป็นการเบรคที่ดี
เหล่า นี้คือความเข้าใจที่ผิดทำให้การเบรคไม่ถูกต้อง จึงต้องใช้ระยะทางเบรคมากกว่าที่ควร ซึ่งอาจไม่เพียงพอในสถานการณ์คับขันและเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ เอาหล่ะ... เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าเบรคที่ดี ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร
(2) ภาพจำลอง การกดเบรคหน้าอย่างเดียว
3) ภาพจำลอง การกดเบรกหลังอย่างเดียว
โดยหลักๆ แล้ว เบรคแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. เบรกหน้า (Front Brake)
เป็นเบรกที่ให้ประสิทธิภาพในการหยุดรถดีที่สุด แต่จะทำให้รถเสียความสมดุล : จาก ภาพที่(2) จะเห็นว่าจากตำแหน่งของรถและผู้ขี่ในสภาวะปกติ(ภาพลายเส้นสีฟ้า) เมื่อกดเบรคหน้า น้ำหนักเกือบทั้งหมดของรถจะถูกเหวี่ยงมาด้านหน้าผ่านโช้คลงไปสู่ล้อหน้า (นี่แหละที่มาของคำว่า “เบรคหัวทิ่ม”) ณ จุดนี้จึงเป็นการลดความเร็วของรถทั้งคันอย่างแท้จริง (เพราะมันมารวมอยู่ที่ล้อหน้าเกือบหมดแล้ว) แต่ด้วยน้ำหนักดังกล่าวนี้เองทำให้ช่วงหน้าหนักเป็นผลให้รถเลี้ยวยาก
2. เบรกหลัง (Rear Brake)ให้ประสิทธิภาพในการเบรคน้อยกว่า แต่รถมีความสมดุลมากกว่า : จาก ภาพที่(3) เนื่องจากเมื่อกดเบรคหลังจะมีน้ำหนักบางส่วนกดลงมาที่ล้อหลังแต่ส่วนใหญ่จะ ยังคงถูกเหวี่ยงไปยังด้านหน้าของรถตามแรงโมเมนตัม ณ จุดนี้จึงเป็นการลดความเร็วเพียงบางส่วนของทั้งหมด เพราะความเร็วส่วนที่เหลือได้ถ่ายไปยังด้านหน้ารถ (ฉะนั้นถึงแม้เบรคจนล้อหลังล็อค รถก็ยังคงวิ่งต่อไปได้ด้วยล้อหน้า) ทำให้ใช้ระยะทางในการเบรคมากกว่า แต่นี่เองทำให้น้ำหนักของรถกระจายไปยังล้อหน้า-หลังอย่างสมดุลเป็นผลให้ควบ คุมรถในขณะเบรคได้ง่าย
วิธีการเบรคที่ถูกต้องจะใช้เบรคหน้าและหลังเป็นหลัก และจากคุณสมบัติของเบรคที่กล่าวมาข้างต้นเราจึงสามารถสรุปได้ว่า การเบรคที่ดีควรให้น้ำหนักการกดเบรคหน้าประมาณ 70-80% และหลังประมาณ 20-30% และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรกดเบรคหลังก่อนเล็กน้อยเพื่อการกระจายน้ำหนักและ ประสิทธิภาพการเบรคที่ดีกว่า แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ให้กดพร้อมกันเลย